วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี

(ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561)

สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามานะ

วันนี้เราไปต่ออายุใบขับขี่ แบบ 5 ปี
(ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุเป็นแบบ 5 ปี ไปต่ออายุใหม่ ก็จะได้แบบ 5 ปีเหมือนเดิม)

เราไปต่อที่กรมการขนส่งทางบก ตรงจตุจักร เพราะว่าใกล้บ้านที่สุดแล้ว

ขอเล่าแบบสรุป ๆ ละกันเนอะ ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ติดต่อที่ไหน เป็นแบบ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ ทำไม (What Why Where Who When How)

What? อะไร?
ต่ออายุใบขับขี่ที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นแบบหมดอายุ 5 ปี

Why? ทำไม?
ก็.. มันจะหมดอายุแล้วจ้า เหมือนเขาจะกำหนดวันหมดอายุให้ตรงกับวันเกิดของเรานะ
เราเกิดธันวาฯ เดือนหน้าก็จะหมดอายุแล้ว พอมีเวลาว่างเลยไปต่ออายุก่อน

Where? ที่ไหน?
เราสะดวกไปที่ กรมการขนส่งทางบก ตรงจตุจักร
เดินทางง่ายดี ลง BTS หมอชิต หรือจะ MRT สวนจตุจักรก็ได้ แล้วเดินไปนิดหน่อยก็ถึงแล้ว

พวกใบขับขี่ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ระหว่างประเทศ ติดต่อที่ อาคาร 4 ชั้น 2 ได้เลย

จริง ๆ เรากะจะไปตามเวลาเปิด คือ 8 โมงค่อยไปรอคิว แต่บังเอิญ 7 โมงนิด ๆ ก็ถึงที่ขนส่งฯ แล้ว
เลยลองขึ้นไปดูที่อาคาร 4 ชั้น 2..

คนเริ่มมารอแล้วจ้า!! ตั้งแต่ 7 โมงนี่แหละ เราก็เลยอยู่รอด้วย

พอสัก 7 โมง 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็เริ่มมา บอกว่า จะแจกคิวช่วง 8 โมง

แต่พอ 7 โมงครึ่ง ก็เริ่มเรียกคนที่มารอแล้ว บอกว่า ใครมาต่อมาทำใบขับขี่ มาต่อแถวได้เลย

แบ่งเป็นแถว คือ แถวที่จองคิวมา (ทำใบขับขี่ใหม่ หรือกรณีที่หมดอายุเกิน 1-3 ปีและต้องสอบใหม่ และต้องเข้าอบรม)

แถวที่ต่อ 2 ปีไปเป็น 5 ปี (ทดสอบร่างกาย ไม่ต้องเข้าอบรม ต้องใช้ใบรับรองแพทย์)

แถวสุดท้าย ต่อ 5 ปี เป็น 5 ปี (ทดสอบร่างกาย เข้าอบรม ไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์)

เราคิดถูกมากเลยที่ยืนรอตั้งแต่เจ็ดโมง เพราะคนเยอะ และเจ้าหน้าที่เรียกจัดคิวก่อนเวลา
ถ้ามา 8 โมงเหมือนอย่างที่คิดไว้ตอนแรกนี่คงได้คิวท้าย ๆ มาก ๆ

แอบเล่าว่า เจ้าหน้าที่เน้นมากกกกก ว่าต้องแต่งตัวสุภาพ ห้ามกางเกงขาสั้น ห้ามสายเดี่ยว แขนกุด กระโปรง/กางเกงสั้นมาก ๆ รองเท้าควรเป็นรองเท้าผ้าใบ ฯลฯ ไม่งั้นจะไม่ให้บริการ

อ้อ ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.45 น. ปิดรับคำขอประมาณบ่ายสองโมง

Who? ใคร?
ของเราเป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลนะ
ใบขับขี่แบบอื่นไม่มี 55+

When? เมื่อไหร่?
เราไปต่ออายุก่อนวันหมดอายุของใบขับขี่

How? อย่างไร?
เอกสารที่ใช้สำหรับต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี มี 2 อย่างเอง คือ

  • ใบขับขี่ที่จะหมดอายุ หรือหมดอายุไปแล้วไม่เกิน 1-3 ปี ตัวจริง
  • บัตรประชาชน ตัวจริง
แค่นี้เอง..
ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดจ้า ใช้สองอย่าง ไม่ต้องถ่ายเอกสารอะไรมาทั้งนั้น
ใบรับรองแพทย์ไม่ต้องใช้จ้า

(แอบเล่า สำหรับคนที่ทำใบขับขี่ใหม่ หรือต่ออายุแบบบัตรเดิมหมดอายุนานเกิน 3 ปี** ซึ่งต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เจ้าหน้าที่บอกว่า ใบรับรองแพทย์ ต้องประทับตราของโรงพยาบาลด้วยนะ!! ถ้าไม่มีตราประทับจะใช้ไม่ได้ ต้องไปขอใหม่ ซึ่งมีคนเยอะเหมือนกันที่ไม่มีตราประทับ ต้องไปขอใหม่
แต่ๆๆๆๆ ถ้าใครยังไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์มาแต่ต้องใช้ หรือใบรับรองแพทย์ไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่ฯ จะแนะนำว่า ออกจากกรมฯ ไป เลี้ยวซ้าย ไปที่ร้านหมอลำดวน สามารถออกให้ได้ เอาไว้เป็นทางเลือกนะจ๊ะ)

**เกณฑ์ที่ขนส่งกำหนด คือ
- กรณีใบอนุญาตสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน
- กรณีใบอนุญาตสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน และการสอบขับรถ และใบรับรองแพทย์

ถือบัตรตัวจริงสองใบนี้ไปติดต่อเคาน์เตอร์ (เขียนว่าประชาสัมพันธ์) จะได้บัตรคิว ให้มานั่งรอเรียกคิว (ถ้าต่อ 5 ปี เป็น 5 ปี จะเป็นบัตรคิวสีฟ้า)

พอเรียกคิวแล้ว

ขั้นแรก เจ้าหน้าที่จะออกใบคำขอต่ออายุให้ ให้ตรวจสอบข้อมูล แล้วเซ็นชื่อ เดินขึ้นบันไดไปชั้น 3

ขั้น 2 ที่ชั้น 3 ให้ไปยื่นเอกสารต่อที่ประชาสัมพันธ์ ก็จะได้บัตรคิวสีเขียวมา สำหรับรอเรียกเข้าห้องทดสอบร่างกาย ระหว่างรอก็ดูวีดิโอสาธิตการทดสอบร่างกายไปพลาง ๆ

ขั้น 3 พอคิวถูกเรียกเข้าห้องทดสอบร่างกายแล้ว ก็สอบ ๆ ๆ ๆ มีอยู่ 4 ด่านด้วยกัน คือ
  • ทดสอบตาบอดสี โดยให้บอกสีไฟที่เจ้าหน้ากด ว่า เขียว เหลือง หรือแดง
  • ทดสอบสายตาทางลึก คล้าย ๆ เล่นเกมเลื่อนเสาให้ขนานกัน มีปุ่ม ๆ ให้กด โดยให้เลื่อนแท่งซ้ายมาขนานกับแท่งขวา ถ้าได้ ก็ผ่านนนน
  • ทดสอบความเร็วในการตอบสนอง คือ จะมีแท่นคันเร่งกับเบรคให้เหยียบ ให้เราเหยียบคันเร่งจนไฟเขียวเปลี่ยนเป็นไฟแดง แล้วให้รีบเหยียบเบรคให้ทันภายใน 0.75 วินาที (พอไฟแดงขึ้น จะมีแถบนับเวลาสีเขียวพุ่งขึ้นมา ถ้าเราเหยียบเบรคทันเวลา แถบสีเขียวนับเวลายังไม่พุ่งขึ้นไปสุดจนถึงสีแดง ก็คือผ่าน)

    ด่านนี้เราทำตั้งสองรอบ เพราะอะไรรู้มั้ย รองเท้าเราเป็นรองเท้าผ้าใบไง แล้วเท้าเราก็ใหญ่ รองเท้าเลยใหญ่ตาม ส่วนคันเร่งและเบรคบนแท่นที่เค้าใช้ในการทดสอบมันอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างใกล้กัน พอรองเท้าใหญ่ เลยเปลี่ยนเท้าไปมาระหว่างคันเร่งกับเบรคยาก ใช้เวลาเกินที่เค้ากำหนด เหยียบยังไงก็ไม่ทันเวลา ดังนั้นใครใส่รองเท้าใหญ่ แนะนำถอดรองเท้าก่อนเลย หรือ ใช้สองเท้า เท้าขวาคันเร่ง พอถึงจังหวะที่ต้องเหยียบเบรคก็เอาเท้าซ้ายที่รออยู่แล้วเหยียบไปเลย!!
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง คือ ให้มองตรง ๆ มาข้างหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จะถามว่าสีที่แสดงอยู่ข้าง ๆ เกือบ ๆ หางตานี้คือสีอะไร โดยห้ามเรากรอกตาไปมองสี
ขั้น 4 พอผ่านหมดแล้วก็ออกจากห้อง ๆ ไปชั้น 4 เพื่อฟังอบรมกับวีดิโอ ประมาณเกือบชั่วโมงมั้ง ก็เป็นอันเสร็จ รับเอกสาร แล้วกลับไปที่ชั้น 2 ติดต่อตรงประชาสัมพันธ์ (จุดแรกที่แจกบัตรคิว) ก็จะได้คิวกระดาษมา ไปรอนั่งเรียกคิว

ขั้น 5 พอเรียกคิว ก็ไปตามเคาน์เตอร์ที่ขึ้นบอกบนจอว่าคิวของเราได้ทำที่เคาน์เตอร์ไหน
ขั้นนี้จะเป็นการถ่ายรูป จ่ายเงิน (ของเราเสีย 505 บาท เป็นค่าใบขับขี่ 500 บาท และค่าคำขอ 5 บาท) รับใบเสร็จ และใบขับขี่ใบใหม่ ตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าโอเคก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เวลาที่ใช้..
นับตั้งแต่รับบัตรคิวที่จุดแรก.. (ประมาณ 7.50 น.) จนเสร็จขั้นตอน (ประมาณ 10 โมง)
รวมประมาณ 2 ชั่วโมง

ถ้าไปรอคิวตั้งแต่เช้า (7 โมง) สามารถลางานครึ่งวันมาต่ออายุได้จ้า เสร็จทันครึ่งเช้าแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม ลองดูที่เว็บของ กรมการขนส่งทางบก นะจ๊ะ
เผื่อมีการปรับเปลี่ยนข้อมูล

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่หลงเข้ามาบ้าง
ขอให้โชคดีในการต่อใบขับขี่นะ ^_^

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Kaze mo, Sora mo, Kitto (The Wind, the Sky, Always) (แปลไทย)

ช่วงนี้เจ้าของบล็อกเป็นอะไรไม่รู้ ฟังเพลงเก่า ๆ แล้วรู้สึกอิน เลยอยากแปลออกมาแบบตามใจตัวเอง
เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ชอบ เป็นเพลงที่ จขบ. คิดว่า เหมาะกับเนื้อหาในการ์ตูนมาก
มาโมรุจากอุซางิไปต่างประเทศ โดยไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้

เหมือนกับในเพลงที่บอกว่า โบกมือลา จนเธอลับตา แล้วก็หวนนึกถึงตอนที่มีความสุขร่วมกัน

อุซางิคงคิดถึงมาโมรุมาก เห็นอะไรก็นึกถึงเขาตลอด และใจคงคิดว่า ทำไมถึงไม่ติดต่อมานะ

Spoil!! เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ

ที่ติดต่อมาไม่ได้เพราะโดยชิงสตาร์ซี๊ดไปตอนกำลังบินไปต่างประเทศ

จบช่วง Spoil เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ

เพลง: Kaze mo, Sora mo, Kitto
จากเรื่อง: Sailor Moon Sailor Stars
แปลแบบใส่สีตีไข่จากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่ลงไว้ใน Youtube ตาม link: https://www.youtube.com/watch?v=KKIE9j8L6xQ

(Credit ตามนี้เลย
Sung by Mizuki Arisa
Romanization by Sailor Jes
Corrections by Raya Starwing
Translation by Alex Glover)



ฉันโบกมือลาเธอ จนกระทั่งเธอเดินหันหลังจากไป
และหายไปในฝูงชน

หวนนึกถึงเมื่อตอนที่เราได้จับมือกัน
และฉันได้จ้องมองดวงตาของเธอ
ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ ฉันจะได้กลิ่นอายจาง ๆ ของเธอ
นึกถึงอดีตตอนนั้นแล้วน้ำตาของฉันก็ไหลรินออกมา

แม้เราจะทะเลาะกันบ้าง ทำตัวงี่เง่าใส่กันบ้าง
แต่ฉันไม่คิดเลยว่า วันนี้จะมาถึง วันที่เราจากกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป

นึกถึงเมื่อวันวาน ตอนที่เราเปิดใจเข้าหากัน คุยกันได้ทุกเรื่อง
สายลม และท้องฟ้า โอบล้อมพวกเราเอาไว้ด้วยกัน

ตอนนี้เหลือฉันเพียงคนเดียวแล้ว
ตอนกลางคืนแบบนี้ เหงาเหลือเกิน อยากจะอยู่กับเธอจัง
ตอนนี้ แม้แต่คำพูดของฉัน สิ่งที่อยากจะพูดกับเธอ ไม่สามารถส่งไปถึงเธอได้อีกแล้ว

นึกถึงเมื่อวันวาน ตอนที่เราอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
ฉันอยากให้เธออย่าลืมมันนะ ช่วงที่มีความสุขตอนนั้น ตอนที่ฉันรักเธอ ตอนที่เรายังรักกัน
อยากจะกลับไปเป็นแบบตอนนั้นจัง

หลังจากที่เธอจากไปในวันนั้น ฉันฝันถึงเธอ ฝันถึงช่วงเวลาที่มีความสุข
ฉันจะไม่ลืมเลย ดวงตาของเธอ อ้อมกอดของเธอ

สายลม และท้องฟ้า จะช่วยชะล้างความเศร้านี้ออกไปจากใจของฉัน




วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Todokanu Omoi =My Friend’s Love= - Sailor Moon (แปลไทย)

Todokanu Omoi -My Friend’s Love-
“Unreachable Feelings: My Friend’s Love”

ความรู้สึกที่ส่งไปไม่ถึง.. ฉันเป็นได้แค่เพื่อนสินะ..

แปลจากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่ถูกแปลโดย Kurozuki
แปลเป็นภาษาไทยแบบใส่สีตีไข่ ตามใจตัวเอง โดย เจ้าของบล็อก เอง

เอาข้อมูลเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่แปลแล้วมาจากเว็บ Sailor Music


ในความฝันของฉัน.. พวกเราจุมพิตกัน จูบกันอย่างอ่อนโยน
กี่ครั้งกันแล้วนะ..
เวลาที่ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเธอ เหมือนฉันถูกดึงดูดเข้าไป
ดั่งต้องมนต์สะกด

ได้หลับใหลในอ้อมกอดของเธอ
ไออุ่นจากตัวเธอนั้น.. อ่า.. ช่างรู้สึกดีเหลือเกิน
จนไม่อยากจะตื่นขึ้นจากฝันนี้
ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน หากต้องตื่นขึ้นมาพบกับความเป็นจริง

ความเจ็บปวดนี้ ทำฉันเกือบทนมันไม่ไหว ทรมานเหลือเกิน..

ความทรมานนี้ สิ่งที่เกิดกับฉันนี้ เป็นเพราะเหตุผลเดียว
คือ "เราเจอกันช้าไป.."

ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ล่ะก็..

ฉันอยากจะพาเธอไป.. ไปยังที่ที่แสงจันทร์ส่องไม่ถึง.. ที่ที่มีแต่สองเรา..

รอยยิ้มที่สดใสของเธอ เป็นดั่งดวงอาทิตย์ที่แสนสดใส
แต่ลึกลงไปข้างในใจของฉันนั้น กลัวเหลือเกิน ที่จะต้องโดดเดี่ยว

โทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ปลายสายนั้นคือเธอนั่นเอง
เธอบอกฉันว่า ฉันเป็นเพื่อนที่ดี ฉันเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลย

ไม่เข้าใจ
ฉันไม่เข้าใจ

เมื่อวานนี้ เธอยังอยู่กับฉัน ในความฝัน เราสองคนยังจุมพิตกันอย่างอ่อนโยน
แต่วันนี้ เธอกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา..

ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ล่ะก็..

ฉันอยากจะพาเธอไปจัง.. ไปยังที่ที่แสงจันทร์ส่องไม่ถึง.. ที่ที่มีแต่สองเรา..



::นอกเรื่อง เผื่อมีใครหลงเข้ามา::

จขบ. (เจ้าของบล็อก) ชอบเพลงนี้มาก ๆ เลย
ได้ฟังครั้งแรกในเรื่อง Sailor Moon Sailor Stars ตอนที่ 188 (มั้ง ถ้าข้อมูลไม่ผิด)
เปิดเพลงได้ตรงจังหวะดี ชอบ ๆ

เปิดตอนไหนน่ะเหรอ อืม.. ถ้าใครเคยดูแล้วอยากรำลึกความหลังก็อ่านต่อได้นะ
แต่ใครยังไม่เคยดูก็ข้ามไปได้ถ้าไม่อยากถูก spoil

**ตั้งแต่ตรงนี้ไปเปิดเผยเนื้อหาสำคัญนะจ๊ะ**

อุซางิและแก๊งอัศวินเซเลอร์ทั้ง 5 คน ได้ขึ้นเครื่องบินไปกับกลุ่มศิลปิน Three lights ในงาน meeting ของแฟนคลับหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ จำไม่ค่อยได้

จากนั้นก็เกิดเรื่อง เซเลอร์อลูมินั่มไซเรน ที่รู้ตัวจริงของเซเลอร์มูนแล้ว วางแผนให้งาน meeting บนเครื่องบินกลางอากาศนี้ ให้เป็นจังหวะที่จะช่วงชิง star seed ของเซเลอร์มูน เพราะว่าอยู่กลางอากาศแบบนี้หนีไปไหนไม่ได้แน่ ๆ และคนบนเครื่องก็เต็ม ใช้เป็นตัวประกันได้ทั้งหมด

เริ่มจาก ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกง่วงและหลับไป (แต่แก๊งเซเลอร์ทั้ง 4 ไม่หลับด้วย เพราะแรงอิจฉา จึงพยายามขึ้นไปชั้น first class ซึ่งอุซางิได้นั่งกับกลุ่ม Three lights สองต่อสอง.. ไม่สิ หนึ่งต่อสาม ต่างหาก)

พอขึ้นไปก็เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี กลุ่ม Three lights ถูกมัดไว้กับเก้าอี้โดยเซเลอร์สจ๊วต ส่วนอุซางิกำลังจะถูกชิง star seed เอาล่ะสิ เหตุการณ์เข้าตาจนแบบนี้..จะทำยังไงดีนะ

เซยะ หนึ่งในนักร้องกลุ่ม Three lights ได้รวบรวมพลังและดึงตัวเองให้หลุดจากการมัดได้สำเร็จ และแปลงร่างเป็นเซเลอร์สตาร์ไฟเตอร์ ต่อหน้าอุซางิ เพื่อที่จะช่วยอุซางิไม่ให้ถูกชิง star seed ไป

หลังจากนั้น กลุ่ม Three lights อีกสองคนก็เลยต้องแปลงร่างตาม เพื่อช่วยเซยะอีกแรง

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ทำเอาอุซางิและแก๊งอึ้งไปตาม ๆ กัน ว่าผู้ชายสามคนที่ชั้นกรี๊ด ๆ อยู่นั้น คือ อัศวินเซเลอร์ คือ ผู้หญิงเหมือน ๆ กัน กรี๊ด ๆ (คงไม่คิดแบบนั้น เจ้าของบล็อกคิดเอง 55+)

รวมถึงเซเลอร์อลูมินั่มไซเรนก็อึ้งด้วย เพราะแผนการช่วงชิง star seed กำลังจะสำเร็จแล้วเชียว แต่คนที่จับมาเป็นตัวประกันดันเป็นอัศวินเซเลอร์

ว่าแล้วก็สั่งให้ลูกน้องตัวเอง (เซเลอร์สจ๊วต) จัดการกับทุกคน

เซเลอร์สจ๊วตพุ่งเข้าโจมตีแก๊งอุซางิ!!!!

แต่เซเลอร์สตาร์ไฟเตอร์ไหวตัวทัน ยิงเลเซอร์ต้านการโจมตีเอาไว้จนเซเลอร์สจ๊วตล้มระเนระนาด

เซเลอร์สตาร์ฮีลเลอร์ บอกให้แก๊งอุซางิหลบไป เดี๋ยวพวกเราสามคนจะจัดการเอง

(เพลงเริ่มขึ้น เจ้าของบล็อกขนลุกมาก ๆ มาถูกจังหวะจริง ๆ)

แต่เจ้เรย์บอกว่าพวกชั้นไม่หลบเด็ดขาด แล้วตะโกนบอกให้อุซางิแปลงร่าง

แล้วทั้งแก๊ง 5 สาวก็แปลงร่างเป็นอัศวินเซเลอร์ ต่อหน้ากลุ่ม Three lights

แปลงร่างเสร็จ ทุกคน ทุกฝ่าย ก็อึ้งไปตาม ๆ กัน อะไรกันนี่ เป็นเซเลอร์กันหมดเลยเหรอ แล้วก็ดันขึ้นเครื่องกันมาหมดด้วย

ทุกคนจัดการเซเลอร์สจ๊วต และให้เซเลอร์มูนฮีลให้จนกลับสู่ร่างเดิม

ตัดกลับมาที่เซเลอร์อลูมินั่มไซเรน กำลังอึ้งปนตกใจ เซเลอร์รวมตัวกันเกือบสิบคนแบบนี้ ไม่ไหวแน่ ๆ ขอขว้างน้ำกระป๋องแล้วหลบไปก่อนดีกว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ..

**จบส่วนเปิดเผยเนื้อหาสำคัญจ้า**


วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2560

รีวิว ชาริโคลา - Ricola instant tea

Updated: แทรกรูปที่ถ่ายมานานแล้ว แต่ไม่ได้ลงเสียที



สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามาครับ ^^

วันนี้เจ้าของบล็อกจะมารีวิว ชาสมุนไพรริโคลา (Ricola instant tea) ครับ

ช่วงนี้เจ้าของบล็อกเป็นอะไรกับลูกอมริโคลาไม่รู้ รู้สึกชอบมาก โดยเฉพาะกล่องสีเหลือง อมแล้วเย็นดี หอมสมุนไพรชื่นใจ อาจจะเป็นเพราะเจ้าของบล็อกเป็นคนชอบกลิ่นเย็น ๆ ของพวกมิ้นท์ หรือพวกยูคาลิปตัส ก็เลยถูกใจลูกอมแนวนี้เป็นพิเศษ

พอกินลูกอมริโคลาบ่อย ๆ ก็ลองหาข้อมูลดู เจอว่าเค้าทำชาขายด้วยนะ ก็เลยอยากลอง

ไปลองด้อม ๆ มอง ๆ แถวซุปเปอร์มาร์เก็ต ก็เจอเจ้าชาที่ว่านี่ มี 2 แบบด้วยกัน โดยที่ Tops Supermarket มีขาย 2 แบบ คือ Herbal tea (กระป๋องเขียว) และ Goodnight tea (กระป๋องน้ำเงิน)

ลักษณะของชา คือ เป็นชาเกล็ด ๆ ผง ๆ (ในเว็บเรียกว่า granules) ชงง่าย แค่ต้มน้ำร้อน แล้วก็ใส่ชาไปประมาณ 3 ช้อน คน ๆ แล้วก็พร้อมดื่มทันที

สรุปรสชาติของทั้งสองแบบเลยนะครับ

Ricola Herbal Tea - ชาสมุนไพรริโคลา กระป๋องเขียว

  • หวานอ่อน ๆ
  • หอมเย็นกลิ่นมินท์มาก ๆ ใครชอบชาเปปเปอร์มินท์ แนะนำเลยครับ เย็นชื่นใจ สะใจ ชาร้อน ๆ แต่กลิ่นหอมเย็น ๆ ฟินมากเลยครับ อย่างกับไม่ได้กินชาร้อนอยู่
  • เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นมิ้นท์ ชอบชาเปปเปอร์มิ้นท์ ชอบเครื่องดื่มที่ช่วยให้ผ่อนคลาย หายใจคล่อง เหมาะกับคนที่เป็นหวัด ได้ดื่มร้อน ๆ ช่วยให้หายใจโล่งขึ้นได้
  • โดยส่วนตัวแล้ว ชอบมากกกก


Ricola Goodnight tea - ชาสมุนไพรสำหรับดื่มก่อนนอนริโคลา กระป๋องน้ำเงิน

อันนี้ อ่านชื่อแล้วอยากลอง เพราะเจ้าของบล็อกเป็นคนนอนหลับยาก เลยรู้สึกถูกใจกับชื่อมาก ชาก่อนนอน อาจจะช่วยให้หลับสบายขึ้นได้

  • หวานอ่อน ๆ มีกลิ่นน้ำผึ้ง หวานกว่าแบบกระป๋องเขียว
  • มีกลิ่นเปลือกส้มนิด ๆ
  • ถ้าถามว่ารสเหมือนอะไร คงคล้าย ๆ ชาน้ำผึ้งมะนาวแบบไม่เปรี้ยว แต่แทนที่จะมีกลิ่นมะนาว อันนี้จะเป็นชากลิ่นเปลือกส้มอ่อน ๆ แทน หวานหอมกลิ่มน้ำผึ้ง ไม่ค่อยมีกลิ่นสมุนไพรเหมือนกระป๋องเขียว
  • รสละมุนแบบนี้ เหมาะกับดื่มก่อนนอน ช่วยให้จิตใจสงบลงได้ เหมือนกับดื่มนมอุ่น ๆ ก่อนนอน แต่อันนี้เปลี่ยนมาเป็นชาแทน
  • โดยส่วนตัวแล้วชอบกระป๋องเขียวมากกว่า อิอิ เพราะกลิ่นสมุนไพรและมิ้นท์ แต่กระป๋องน้ำเงินก็ใช้ได้ครับ ใครชอบแนวหวาน ๆ หน่อยน่าจะถูกใจกระป๋องน้ำเงิน


Happy tea time!! นะครับ
:-)


วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

ประสบการณ์สอบ CU-TEP (E-Testing)

สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามานะครับ ^^

เข้ามาบันทึกประสบการณ์เอาไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ CU-TEP แบบสอบด้วยคอมพิวเตอร์ สอบเสร็จแล้วรู้ผลคะแนนทันที!!

เนื่องด้วยเจ้าของบล็อกจำเป็นต้องสอบ CU-TEP อีกแล้ว เป็นอะไรก็ไม่รู้ ชีวิตต้องวนเวียนกับสิ่งนี้

ตอนสมัครสอบที่เว็บก็สังเกตเห็นว่า เอ๊ะ!! มีสอบแบบใหม่ด้วย คือ จัดสอบด้วยคอมพิวเตอร์ สอบแล้วรู้ผลคะแนนทันทีหลังสอบเสร็จ ก็เลยลองจัดสักหน่อย

แต่ค่าสมัครสอบค่อนข้างสูงมาก คือ 2,500 บาท รับสมัครรอบละ 45 คน
สมัครสอบแล้ว ต้องไปจ่ายค่าสมัครสอบให้ทันภายในวันถัดไป ไม่งั้นจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากระบบ

วาร์ปมาที่วันสอบเลยละกันนะครับ

เจ้าของบล็อกได้รอบสอบวันศุกร์ โดย CU-TEP แบบ E-Testing นี้จะจัดสอบที่อาคารจามจุรี 8 ชั้น 4

ไปถึงอาคารแล้วก็ตรวจอบชื่อและที่นั่งสอบของตัวเองที่บอร์ดด้านหน้าอาคาร แล้วรอเวลาประตูห้องสอบเปิด

พอไปถึงห้องสอบ ก็จะมีให้ตรวจสอบรายชื่อและที่นั่งสอบอีกครั้ง

และก็เหมือนกับการสอบ CU-TEP แบบปกติ คือ ไม่ให้เอาอะไรเข้าห้องสอบเลย ไม่ว่าจะเป็นปากกา ดินสอ นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ  ไปแต่ตัวกับบัตรประชาชน

ห้องสอบก็จะเป็นเหมือนห้องคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็นแถว ๆ มีแผงกั้นกันลอกข้อสอบ

พอนั่งที่นั่งของตัวเองแล้ว ก็จะพบกับ เครื่องคอมพิวเตอร์ และ คู่มือการใช้งานโปรแกรมที่ใช้ในการสอบ และดินสอ 1 แท่ง
จากนั้น ผู้คุมสอบก็จะแจกบัตรประจำตัวผู้สอบ เป็นกระดาษ A4 ที่พิมพ์รายละเอียดชื่อของเรา เลขที่นั่งสอบ และรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานโปรแกรมที่ใช้ในการสอบ โดยกระดาษนี้เป็นกระดาษที่เราจะเอาไว้ทดหรือจดอะไรได้ระหว่างสอบ

พอถึงเวลาสอบ ผู้คุมสอบก็จะให้ทุกคนลองหูฟังว่าได้ยินชัดเจนหรือไม่ และให้ log in เข้าโปรแกรมที่ใช้สอบว่ามีปัญหาในการเข้าหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาก็เริ่มสอบเลย

ข้อสอบก็จะเหมือนกับการสอบ CU-TEP แบบปกติ คือ มี Listening 30 ข้อ  Reading 60 ข้อ และ Writing 30 ข้อ

โปรแกรมที่ใช้สอบก็ใช้งานไม่ยาก สะดวกดี ที่สำคัญคือ มีหูฟัง ทำให้ตอนสอบ Listening ได้ยินเสียงโจทย์ชัดดีมาก

โดยในหน้าจอก็จะมี โจทย์ มีตัวเลือกให้ตอบ มีนาฬิกาจับเวลา และมีหน้าของเราโชว์ด้วย อิอิ

ถ้าทำข้อสอบเสร็จเร็ว เวลายังไม่หมด ระบบก็จะยังไม่ส่งข้อสอบให้ ต้องรอจนเวลาหมดก่อน

พอทำข้อสอบ part สุดท้ายเสร็จ รอเวลาหมด ระบบก็จะส่งข้อสอบให้อัตโนมัติ พร้อมแสดงคะแนนที่สอบได้ (ถ้าอยากได้ใบคะแนนฉบับจริง สามารถลงไปทำเรื่องขอได้เลยที่ชั้น 3 แต่ถ้าอยาก print สำเนาใบคะแนนเอง ก็ไป print เองที่บ้านได้ เพราะคะแนนจะขึ้นในระบบทันที)

สิ่งที่ประทับใจ

  • มีหูฟัง ฟัง listening ชัดมากกกกกก
  • มีนาฬิกาจับเวลาว่าเหลือเวลาสอบอีกเท่าไหร่ พอเหลือ 5 นาที ก็จะกระพริบเตือนด้วย
  • ชีวิตดีมาก ตอนสอบ reading เพราะไม่ต้องพลิกหน้าไปมา เวลาบทความกับโจทย์ที่ให้ตอบอยู่คนละหน้า เพราะสอบด้วยคอมฯ นี้ บทความกับโจทย์จะแสดงคู่ขนานกันไปเลย ไม่ต้องพลิกไปพลิกมา
  • ไม่ต้องฝนกระดาษคำตอบให้เมื่อยมือ แค่คลิก ๆ ประหยัดเวลามาก ๆ
  • สอบเสร็จแล้วรู้ผลทันที (จัดว่าเป็นข้อดีสินะ อิอิ รู้กันทันทีว่าจะมาสอบแก้มืออีกรอบมั้ย)
  • ถ้าได้สอบวันธรรมดา สอบเสร็จแล้วลงไปชั้น 3 ทำเรื่องขอใบคะแนนฉบับจริงได้ทันที พร้อมยื่นสมัครสอบหรือสมัครงาน เสียค่าใบคะแนนฉบับละ 50 บาท
  • อ่อ สามารถย้อนกลับไปตอบข้อเก่า ๆ ใน part ที่ผ่านมาแล้วได้ด้วยนะ โดยกดปุ่ม Answer sheet แต่ถ้าย้อนกลับไปใน part ที่ผ่านมาแล้ว เช่น สอบ reading แล้วอยากย้อนกลับแก้ listening จะไม่มีโจทย์ให้อ่าน (เหมือนกับการสอบปกติที่พอจบ part ไหนแล้ว ผู้คุมสอบก็จะเก็บข้อสอบไปเลย อยากย้อนกลับมาตอบก็จะไม่มีโจทย์ให้ ต้องทดในกระดาษเอาเองถ้าอยากกลับมาตอบ)
  • ส่วนถ้าจะย้อนกลับไปกลับมาระหว่างข้อใน part เดียวกัน ก็ย้อนได้ปกติ มีปุ่ม Next กับ Previous ให้กดได้เลย หรือให้กดปุ่ม Select question
ข้อสังเกต
  • ไม่เหมาะกับคนที่ตาสู้แสงจ้าจากหน้าจอคอมฯ นาน ๆ ไม่ได้ เพราะต้องจ้องจอถึงสองชั่วโมงกว่าตลอดการสอบ
  • ไม่มีขยายตัวหนังสือ ใครหวังว่าจะได้สอบด้วยข้อสอบตัวใหญ่ ๆ คงจะต้องผิดหวัง (หรือปรับได้ไม่รู้ แต่เจ้าของบล็อกหาไม่เจอ)
  • ราคาสูงไปนิด และรับสมัครแต่ละรอบน้อยไปหน่อย แค่ 45 คนต่อรอบ (แต่เห็นจริง ๆ แล้ว พอเต็ม ระบบก็จะเปิดรอบที่ 2-3 เพิ่มให้อีกโดยสอบในวันเดียวกัน)
  • หน้าจอตอนสอบ จะมีคำว่า score ขึ้นอยู่ด้วย ตรงนี้ไม่ต้องสนใจ เพราะจะโชว์แค่ 1 คะแนนตลอดการสอบ ไม่ได้ขึ้นตามข้อที่เราตอบถูก เพราะฉะนั้นถ้าทำข้อสอบแล้วเห็นว่าคะแนนไม่เพิ่มสักทีก็อย่าตกใจไป อิอิ (เจ้าของบล็อกนึกว่าคะแนนจะขึ้นสดเลย แต่จริง ๆ ไม่ใช่ ทำข้อสอบไป ใจแป้วไป ว่าเราตอบไม่ถูกสักข้อเลยเหรอ ขึ้นแค่ 1 คะแนนตลอด)
  • น่าจะให้มีการทดลองการใช้โปรแกรมก่อนสอบด้วยนิดนึง จะได้รู้ว่าทำยังไง เป็นการซ้อมมือ เพราะลำพังแค่การให้อ่านคู่มือก่อนสอบบางทีก็ไม่เห็นภาพว่าใช้งานยังไง (ในเว็บที่สมัครสอบ พอสมัครสอบได้แล้ว จะมีคู่มือการใช้โปรแกรมให้อ่าน ไม่ต้องกลัว)

ถ้าใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปที่เว็บไซต์ของศูนย์ทดสอบฯ จุฬาฯ เลยครับ ทั้งตารางการรับสมัครสอบและรอบการสอบ

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560

เนื้อเพลง เดือนเดือด

เดือนเดือด
เพลงประกอบละครเดือนเดือด (พ.ศ. 2547)

คำร้อง: สิทธิพร อมรพันธุ์
ทำนอง-เรียบเรียง: ธนิต เชิญพิพัฒธนสกุล
ขับร้อง: ชญานี เสมอคำ

เป็นคนดี ๆ จะไปไหน หลีกหนียังไงไม่เคยพ้น เจอแต่คนมันเลว ๆ
มันเป็นอะไรที่โหดร้าย เมื่อคิดในใจให้ทรมาน เหมือนดวงจันทร์เดือนมืดดับ

ฉันไม่ใช่จันทร์กลัวราหู แต่พร้อมจะสู้เข้าเหยียบย่ำ ให้มันจำไปจนตาย
คอยดูเวลาปาฏิหาริย์ แค่เห็นหน้าฉันมันก็ถึงเลือด คืนเดือนเดือดก็รู้เอง

ถ้ารักก็รักด้วยจริงใจ ถ้าร้ายก็ร้ายได้สุดกู่ ใครเป็นใครไม่รู้ เท่าที่รู้วิ่งเข้าสู้ไม่เกรง
ใครมาดีก็ดีไป แต่ใครมาร้ายหรือว่าอวดเก่ง เข้ามาข่มเหง ร้ายแค่ไหนก็ไม่กลัว

บางทีสิ่งที่คิดเห็นว่าเป็นจริง มันก็ไม่จริงดังเห็น

ฉันไม่ใช่จันทร์กลัวราหู แต่พร้อมจะสู้เข้าเหยียบย่ำ ให้มันจำไปจนตาย
คอยดูเวลาปาฏิหาริย์ แค่เห็นหน้าฉันมันก็ถึงเลือด คืนเดือนเดือดก็รู้เอง

ถ้ารักก็รักด้วยจริงใจ ถ้าร้ายก็ร้ายได้สุดกู่ ใครเป็นใครไม่รู้ เท่าที่รู้วิ่งเข้าสู้ไม่เกรง
ใครมาดีก็ดีไป แต่ใครมาร้ายหรือว่าอวดเก่ง เข้ามาข่มเหง ร้ายแค่ไหนก็ไม่กลัว

บางทีสิ่งที่คิดเห็นว่าเป็นจริง มันก็ไม่จริงดังเห็น

ถ้ารักก็รักด้วยจริงใจ ถ้าร้ายก็ร้ายได้สุดกู่ ใครเป็นใครไม่รู้ เท่าที่รู้วิ่งเข้าสู้ไม่เกรง
ใครมาดีก็ดีไป แต่ใครมาร้ายหรือว่าอวดเก่ง เข้ามาข่มเหง ร้ายแค่ไหนก็ไม่กลัว

ถ้ารักก็รักด้วยจริงใจ ถ้าร้ายก็ร้ายได้สุดกู่ ใครเป็นใครไม่รู้ เท่าที่รู้วิ่งเข้าสู้ไม่เกรง
ใครมาดีก็ดีไป แต่ใครมาร้ายหรือว่าอวดเก่ง เข้ามาข่มเหง ร้ายแค่ไหนก็ไม่กลัว

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

Yokan - Evangelion (แปล)

เพลง Yokan (Premonition) - เธอ ฉัน อนาคต
จากเรื่อง Evangelion
นักร้อง Takahashi Youko

แปลและเรียบเรียง+ใส่สีตีไข่จากเนื้อเพลงภาษาอังกฤษ จากเว็บ Anime Lyrics
http://www.animelyrics.com/anime/eva/ngeyokan.htm

ฉันคุ้นเคยกับความเหงาแบบนี้ ความโดดเดี่ยวแบบนี้ มาตั้งแต่เกิด..
แต่ทว่า.. ภายในอ้อมแขนของเธอที่โอบกอดฉันไว้
มันทำให้ใจของฉันสั่น..

ฉันมองเห็น.. และรู้สึก.. ถึงอนาคต
รู้สึกถึงวันข้างหน้า ที่ฉันไม่คิดว่าฉันจะมี
เป็นเพราะความรัก ความอ่อนโยน และความเข้มแข็งของเธอ
ที่โอบล้อมความรู้สึกอันเจ็บปวดของฉันไว้

อา.. อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น..
อา.. การได้ใกล้ชิดกับเธอช่างวิเศษ

การจำทนต้องลืมบางคนหรือบางสิ่งนั้นเจ็บปวด
ฉันผ่านมันมาตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
แต่ก็ดีนะ เพราะมันทำให้ฉันรู้จักกับความเจ็บปวด
รู้จักกับน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลออกมาจากตา

ในอนาคตที่ฉันเห็นและรู้สึกนี้ ตัวตนของฉันได้เปลี่ยนไป
เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากจะเริ่มต้นสิ่งต่าง ๆ ด้วยความสุขและรอยยิ้ม
มีบางอย่างในใจของฉันที่เปลี่ยนแปลงไป..

อา.. แสงสว่าง..
อา.. กำลังสาดส่องมา


ต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี

(ข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561) สวัสดีทุกคนที่หลงเข้ามานะ วันนี้เราไปต่ออายุใบขับขี่ แบบ 5 ปี (ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุเป็นแบบ 5 ปี ไ...